ประวัติเพลงพระราชนิพนธ์ “ยามเย็น”
“LOVE AT SUNDOWN”
ยามเย็น เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 2 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสกับคณะกรรมการของสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพื่อสมทบทุน “โครงการพัฒนาตามพระราชประสงค์” ณ ศาลาดุสิดาลัย เมื่อวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2524 ว่า “เพลง ‘ยามเย็น’ เพลงที่สองนั้นนะ เป็นเพลงพี่ของเพลง ‘สายฝน’ แก่เดือนไป 1 เดือน เขาเกิดเดือนเมษายน (2489)” ทรงพระราชนิพนธ์เพลง “ยามเย็น” ตั้งแต่ยังทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช และโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงประพันธ์คำร้องภาษาไทย และศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ เพลงพระราชนิพนธ์ “ยามเย็น” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่พระราชทานให้นำออกบรรเลงในงานของสมาคมป้องกันวัณโรค เป็นเพลงในจังหวะฟ็อกซ์ทร็อต เหมาะสำหรับการเต้นรำของคนไทยในสมัยนั้น จึงเป็นที่ประทับใจพสกนิกรมาก และกลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมทันที แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า
“เพลง ‘ยามเย็น’ นี้เป็นที่รู้จัก แต่ไม่โด่งดังเหมือน ‘สายฝน’ “
เนื้อเพลงยามเย็นแดดรอนรอน เมื่อทินกรจะลับเหลี่ยมเมฆา
ทอแสงเรืองอร่ามช่างงามตา ในนภาสลับจับอัมพร แดดรอนรอน เมื่อทินกรจะลาโลกไปไกล ยามนี้จำต้องพรากจากดวงใจไกลแสนไกลสุดห่วงยอดดวงตา แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน ทุกวันคืนรื่นอุรา ต้องอยู่เดียวเปลี่ยนวิญญาณ์เหมือนดังนภาไร้ทินกร แดดรอนรอน หากทินกรจะลาโลกไปไกล ความรักเราคงอยู่คู่กันไป ในหัวใจคงอยู่คู่เชยชม แดดรอนรอน หมู่มวลภมรบินลอยล่องตามลม คลอเคล้าพฤกษาชาติชื่นเชยชม ชมสมตามอารมณ์ล่องเลยไป ลิ่วลมโชย กลิ่นพรรณไม้โปรยโรยร่วงห่วงอาลัย ยามสายัณห์พลันพรากจากดวงใจ คอยแสงทองวันใหม่กลับคืนมา แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน ทุกวันคืนชื่นอุรา ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญาณ์เหมือนดังนภาไร้ทินกร โอ้ยามเย็น จวบยามนี้เป็นเวลาสุดอาวรณ์ ยามไร้ความสว่างห่างทินกร ยามรักจำจะจรจากกันไป |
เนื้อเพลงLOVE AT SUNDOWN'Tis sundown.
The golden sunlight tints the bule sea. Paints the hill and gilds the palm tree, Happy be, my love, at sundown. 'Tis sundown. The multi-coloured dancing sunbeam Brightly shines on in my heart's dream Of the one I love, at sundown. The birds come to their nest At peace, they bill and coo. The wide world sinks to rest, And so do I and so do you. 'Tis sundown. In splendour sinks the sun, comes twilight, Day is done, now greets the cool night. Happy be, my love, at sundown. |
ยามเย็น |
LOVE AT SUNDOWN |